เป็นที่ทราบกันเอง นั่นคือในปีนี้ Windows 10 ได้สิ้นสุดการสนับสนุนด้านความปลอดภัย โดยทางไมโครซอฟท์ได้พยายามผลักดันให้ผู้ใช้งานอัปเกรดไปใช้ Windows 11 ถึงแม้จะมีปัญหาในการอัปเกรดอยู่มากมาย แต่ขณะนี้เหมือนกับว่าผู้ใช้งาน Windows 11 หลายรายจะพบปัญหาที่ใกล้เคียงกัน
จากรายงานโดยเว็บไซต์ Neowin ได้รายงานถึงการที่ทางไมโครซอฟท์จะทำการบังคับให้ผู้ใช้งานที่ใช้ Windows 11 รุ่น 22H2 และ 23H2 จะต้องทำการอัปเกรดเวอร์ชันขึ้นไปเป็น 24H2 สำหรับเครื่องที่มีศักยภาพพอสำหรับการอัปเกรด และไม่ติดการบล็อกจากทางไมโครซอฟท์ ซึ่งที่ผ่านมานั้นการอัปเกรด Windows 11 ขึ้นไปเป็นเวอร์ชันดังกล่าวนั้นถูกกำหนดไว้ให้เป็นแค่ทางเลือก (Optional) ว่าจะอัปเกรดหรือไม่อัปเกรดก็ได้
ภาพจาก : https://learn.microsoft.com/en-us/windows/release-health/status-windows-11-24h2
ซึ่งที่ผ่านมา มีผู้ใช้ไม่อยากอัปเกรดเนื่องจากเวอร์ชันดังกล่าวนั้นก็มีบั๊ก และปัญหาเรื่องการเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์เป็นจำนวนมากจนสร้างความลังเลให้ผู้ใช้งานหลายราย จนกระทั่งล่าสุดทางไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะต้องอัปเกรดสำหรับเครื่องที่ไม่ติดปัญหา
ทว่าการบังคับดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานทั่วไปเช่นผู้ใช้งานตามบ้านเท่านั้น สำหรับผู้ใช้งานในเวอร์ชันระดับองค์กร เครื่องจะไม่ถูกอัปเกรดอย่างอัตโนมัติ หรือบังคับให้อัปเกรดจากทางไมโครซอฟต์ โดยการอัปเกรดทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากผู้ดูแลในส่วน IT (IT Admin) ของทางองค์กรเท่านั้น โดยข้อนี้น่าจะสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ใช้งานระดับองค์กรหลายรายว่า จะไม่เจอปัญหาในการทำงานจากการอัปเกรดอย่างอัตโนมัติ
แต่จากปัญหา และบั๊กที่มีมากมายในขณะนี้ ยังไม่ใช่ชัดเจนว่าถ้าเกิดการบังคับอัปเกรดใช้งานในวงกว้างจะเกิดปัญหาที่ไม่เคยพบเจอมากขึ้นเพียงใด ? อาจจะต้องติดตามข่าว และคอยรับมือกันต่อไปสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป
|