การใช้งานโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 นั้น ยังคงเป็นข้อถกเถียงกันทั่วโลกว่า จะเป็นการเหมาะสมหรือไม่ ? แต่ในตอนนี้ทางรัฐบาลออสเตรเลียได้ไปไกลกว่านั้นแล้ว
จากรายงานข่าวโดยสำนักข่าว CBS News ได้รายงานถึงการที่ทาง นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศออสเตรเลีย นาย Anthony Albanese ได้ออกมาประกาศกร้าวว่า ทางประเทศออสเตรเลียจะเป็นผู้นำรายแรกของโลก ที่จะทำการแบนการใช้งานโซเชียลมีเดียทั้งหมดสำหรับเด็ก และผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีนั้นยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่จะต้องนำไปผ่านขั้นตอนนิติบัญญัติมากนัก แต่ได้มีการระบุในการแถลงข่าวว่า กฎหมายฉบับใหม่ จะบังคับให้ทางผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียต้องทำการยืนยันตัวตนเพื่อยืนยันอายุของผู้ใช้งาน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้ให้บริการนั้นได้รับผิดชอบในส่วนของตนเพื่อป้องกันการเข้าถึงการใช้งานโซเชียลมีเดียจากกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่ากำหนด
ทางนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ยังได้กล่าวอีกว่า “โซเชียลมีเดียนั้นเป็นภัยอันตรายต่อเด็ก และเยาวชน ซึ่งทางเรานั้นได้ทำการปรึกษาหารือกับผู้ปกครอง, ปู่, ย่า, ตา, ยาย, ลุง, ป้า, น้า และอา ของเยาวชนจำนวนนับพัน พวกเขาทุกคนล้วนเป็นห่วงในความปลอดภัยของบุตรหลานของพวกเขาจากภัยออนไลน์ ดังนั้น ทางเราจำเป็นต้องออกมาเคลื่อนไหว เพื่อให้ผู้ปกครองจากทั่วประเทศออสเตรเลียอุ่นใจได้ว่า รัฐบาลกำลังสนับสนุนพวกเขาอยู่
นอกจากนั้นยังมีรายงานอีกว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้ได้มีการบัญญัติการลงโทษด้วยการปรับเงินจำนวนมาก สำหรับผู้ให่บริการโซเชียลมีเดียที่ไม่มีความรับผิดชอบจนปล่อยให้เด็กสามารถเข้ามาใช้งานได้ แต่ในขณะเดียวกัน กฎหมายฉบับดังกล่าวนั้นก็ไม่ได้มีการบัญญัติบทลงโทษสำหรับผู้ปกครองที่ปล่อยให้ลูกที่มีอายุต่ำกว่ากำหนดเข้าใช้งานโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด นอกจากการห้ามเด็กเข้าใช้งานโซเชียลมีเดียเองแล้ว กฎหมายฉบับใหม่นั้นยังได้ห้ามการยกเว้นสำหรับเด็กบางรายที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เล่นโซเชียลมีเดียได้ โดยการห้ามนั้นยังครอบคลุมไปถึงกลุ่มเยาวชนที่มีบัญชีโซเชียลมีเดียของตนเองอยู่แล้วอีกด้วย โดยสรุปคือ การห้ามการเข้าถึงโซเชียลมีเดียนั้นจะมีผลกับเยาวชนทุกรายในประเทศออสเตรเลียอย่างไม่มีการยกเว้น และอ่อนข้อใด ๆ
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งจากในและนอกประเทศออสเตรเลียร่วม 140 ราย ก็ได้ทำการส่งจดหมายเปิดผนึกถึงทางรัฐบาลออสเตรเลีย เกี่ยวกับความกังวลใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยเนื้อความมีอยู่ว่า
“โลกออนไลน์นั้นเป็นโลกที่เด็ก และเยาวชนจะใช้ในการค้นหาข้อมูล สร้างตัวตน สังสรรค์กับสังคม รวมทั้งใช้ในการติดต่อกับญาติมิตร ครอบครัว เพื่อนฝูง ช่วยให้เด็กมีความรู้รอบตัวเกี่ยวกับโลกที่อยู่ และผ่อนคลายใจจากความเครียดรายวัน ดังนั้นทางเราถึงไม่คิดว่าการแบนนั้นจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดี”
ก้าวต่อไปของออสเตรเลียจะเป็นอย่างไร ? กฎหมายฉบับนี้จะผ่านออกมาได้หรือไม่ ? ผู้อ่านอาจจะต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะกรณีนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานให้รัฐบาลอื่น ๆ ในโลก รวมทั้งรัฐบาลไทย ก้าวตามไปในทิศทางเดียวกันในอนาคตก็เป็นได้
|