ในที่สุด Google Maps บน iOS และ CarPlay ก็มีมาตรวัดความเร็วแล้ว

เป็นหนึ่งในลูกเล่นที่ผู้ใช้ iPhone รอคอยกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุดแอปพลิเคชัน Google Maps ของทางฝั่ง IOS ก็สามารถใช้คุณสมบัติตรวจวัดความเร็วของยานพาหนะ ซึ่งมาทีหลังฝั่งผู้ใช้ Android ถึง 5 ปี หากพูดถึงข้อดีของฟีเจอร์นี้ก็คงเป็นการช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่โดนใบสั่งเนื่องจากขับเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดนั่นเอง

ตามรายงานจาก TechCrunch ในที่สุด Google Maps ก็ได้ปล่อยฟีเจอร์วัดความเร็ว (Speedometer) และแสดงป้ายจำกัดความเร็ว (Speed Limit Indicators) สำหรับผู้ใช้ iOS และ CarPlay ซึ่งทั้งที่จริงแล้ว ฟีเจอร์เหล่านี้ มันมีบนระบบปฏิบัติการ Android มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) รวมถึงแอปพลิเคชัน Waze ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันนำทางเหมือนกัน (แต่ไม่นิยมในประเทศไทย) ก็มีระบบวัดความเร็วมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) แล้ว

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการค้นพบว่า Google Maps ในประเทศอินเดียนั้นมีตัวเลขแสดงความเร็วขึ้นมาบนหน้าจอนำทางซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ ทาง Google เองก็ได้ออกมายืนยันเมื่อวันอังคารที่ 9 กรกฏาคม ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567) ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และกำลังเตรียมอัปเดตคุณสมบัติวัดความเร็ว และแสดงป้ายจำกัดความเร็ว ให้ใช้กันทั่วโลก

ส่วนวิธีการเปิดใช้งานนั้นจะมีขั้นตอนดังนี้

1. แตะที่รูปโปรไฟล์ของคุณบน Google Maps
2. ไปที่ตั้งค่า (Settings) > การนำทาง (Navigation)
3. เลื่อนลงไปที่หัวข้อ "แสดงแผนที่" (Map Display)
4. คุณจะเห็นปุ่มสำหรับเปิด/ปิด ฟีเจอร์วัดความเร็ว (Speedometer) และแสดงป้ายจำกัดความเร็ว (Speed Limit)

เมื่อเปิดใช้งาน ฟีเจอร์วัดความเร็วจะแสดงที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอหากคุณขับเกินกว่ากำหนด ฟีเจอร์วัดความเร็วจะเปลี่ยนสี เพื่อเตือนให้คุณชะลอความเร็ว หากยังไม่สามารถเปิดได้อาจจะต้องอดใจรออัปเดตกันสักนิด

ภาพจาก : https://support.google.com/maps/answer/9356324?hl=en&sjid=8840049298224782746-AP#zippy=

สำหรับความปลอดภัย Google ระบุไว้บนหน้าสนับสนุน (Support Page) ว่าฟีเจอร์วัดความเร็วนี้มีไว้ใช้สำหรับ "อ้างอิงเท่านั้น" ไม่ควรใช้แทนการดูความเร็วจากหน้าปัดความเร็วจริงของรถยนต์ เนื่องจากความเร็วที่แสดงบน Google Maps อาจแตกต่างจากความเร็วจริงขณะขับขี่ เพราะฉะนั้นต้องคอยสังเกตไว้เพื่อความปลอดภัยของเรา