ระบบไอทีด้านการเงินของประเทศเนเธอร์แลนด์กำลังสั่นคลอน เนื่องจากจำนวนผู้เชี่ยวชาญในระบบโคบอล (COBOL) กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลสำคัญต่อการดูแลระบบการเงินในประเทศ จนทำให้ทางประเทศเนเธอร์แลนด์ต้องเรียกตัวผู้เชี่ยวชาญระบบ COBOL ที่เกษียณอายุงานไปแล้ว ขอร้องให้พวกเขากลับมาทำงานอีกครั้ง
ภาษาโคบอล (COBOL programming language) ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) เป็นภาษาโปรแกรมระดับสูงที่อยู่มาอย่างยาวนาน โดย COBOL ย่อมาจาก Common Business Oriented Language ซึ่งคุณสมบัติเด่นก็ตามชื่อของมันเลย COBOL เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมในการเขียนระบบด้านธุรกิจ
ในประเทศเนเธอร์แลนด์ COBOL เป็นดั่งกระดูกสันหลังของระบบการเงิน และการจัดการที่สำคัญหลายระบบ มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมันถูกใช้พัฒนาระบบเศรษฐกิจแบบอัตโนมัติมาตั้งแต่ในยุคแรก ๆ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นระบบที่ยังนิยมใช้งานกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในงานบริหารภาษี, บริษัทประกันภัย, การกู้ยืมทั้งเงิน และทรัพย์สิน
Jurgen Vinju นักวิจัยจากศูนย์วิจัยด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาการคอมพิวเตอร์เชิงทฤษฎี เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรสถาบันของ Dutch Research Council Centrum Wiskunde & Informatica (CWI) และเป็นศาสตราจารย์ของภาควิชา Automated software analysis ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟินได้ให้สัมภาษณ์ว่า ระบบ COBOL ที่ใช้งานกันอยู่นั้น ตัวซอร์สโค้ด (Source code) มีการขยายตัวจนมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งเป็นผลจากการที่มันถูกเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ เข้าไปมากมายเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ส่งผลให้ซอร์สโค้ดของระบบเหล่านี้มีความซับซ้อนมาก ยากต่อการทำความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักพัฒนาคนใหม่ที่ต้องมารับช่วงทำงานต่อ
ภาพจาก : https://www.cwi.nl/en/stories/jurgen-vinju-on-nos-tv-news/
สถานการณ์ของระบบ COBOL ในตอนนี้จึงเป็นเรื่องน่าปวดหัว ระบบขยายตัว ซอร์สโค้ดซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผู้ที่มีความเข้าใจระบบ และภาษา COBOL กลับน้อยลงสวนทางกัน ทำให้การหาทางแก้ไขปรับลดขนาดระบบให้เล็กลง เพื่อลดความซับซ้อน และการปรับปรุงให้ตัวระบบสามารถรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่เป็นเรื่องที่มีความท้าทายมาก
การเกษียณอายุของผู้เชี่ยวชาญรุ่นเก่าที่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับระบบ COBOL กำลังนำไปสู่การขาดแคลนความรู้อย่างรุนแรง พวกเขาไม่ได้มีความรู้เพียงแค่ภาษาที่นำมาใช้โปรแกรม COBOL เท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบที่มีความเฉพาะเจาะจงต่าง ๆ ที่ได้มีส่วนร่วมพัฒนามาด้วยกันเป็นปี ๆ ทำให้พวกเขารู้จักระบบเป็นอย่างดี สามารถปรับปรุงรักษา และพัฒนาระบบได้ ซึ่งการขาดความรู้ และประสบการณ์การในการโปรแกรม COBOL ในคนยุคใหม่ นั่นหมายความว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถจะปรับแต่งระบบได้ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงให้กับองค์กรที่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบเหล่านี้
เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ COBOL ที่เกษียณไปแล้วถูกเรียกตัวกลับมาประจำการอีกครั้ง ด้วยความรู้ความเข้าใจในระบบการโปรแกรม COBOL สามารถทำให้พวกเขาระบุปัญหา และดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว การกลับมาของพวกเขาทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าระบบที่มีอยู่จะยังได้รับการบำรุงรักษา และปรับให้เหมาะสม
ส่วนแผนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทาง CWI วางแผนว่าจะนำระบบเดิมมาทำวิศวกรรมผันกลับ (Reverse engineering) เพื่อสร้างระบบใหม่ และพัฒนาบุคลากรที่เข้าใจ COBOL สายเลือดใหม่ขึ้นมา ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10-15 ปี ในการแก้ไขปัญหานี้
|