นายสยาม ประสิทธิศิริกุล (ซ้าย) ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) / นายพชร วันรัตน์เศรษฐ (ขวา) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งของไทย เปิดบ้านโชว์นวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์ผู้ใช้เป็นสำคัญ (Human-Centric Innovations) ในงาน Krungsri Tech Day 2023 : Together Now and Next พร้อมรวมพลพันธมิตรบริษัทด้านเทคโนโลยี สตาร์ทอัพ และผู้ทรงคุณวุฒิระดับชั้นนำของประเทศ มาร่วมขับเคลื่อนทัพนวัตกรรมสู่โลกการเงินแห่งอนาคต
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อุตสาหกรรมการเงินการธนาคารในวันนี้เปลี่ยนจากการทำธุรกรรม (Transaction Business) กลายเป็นธุรกิจที่เน้นสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า (Experience Business) หรือการที่ Banking จะเปลี่ยนไปเป็น Banking as a Service
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบันของกรุงศรี รวมถึงสานต่อการเป็นผู้นำในด้านดิจิทัลของไทย ในปีนี้ กรุงศรีได้เริ่มดำเนินการพัฒนาด้านดิจิทัลเทคโนโลยีด้วยแผนการลงทุนมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Human-Centric Innovations) พร้อมทำให้ชีวิตลูกค้าง่ายขึ้นเป็นสำคัญ
โดยมีส่วนที่ดำเนินการไปบ้างแล้ว อาทิ การโอนเงินระหว่างประเทศ โครงการ Pilot Retail CBDC ที่กรุงศรีได้พัฒนาโมบายแอปพลิเคชัน CBDC Krungsri สำหรับทดสอบการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลสำหรับภาคประชาชน ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รวมไปถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI/MI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้า เป็นต้น
ซึ่งเราได้รวบรวมผลงานความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจัดแสดงภายในงาน Krungsri Tech Day 2023 ครั้งนี้ ทั้งยังได้รับเกียรติจากพันธมิตร Tech Company สตาร์ทอัพ และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายองค์กรระดับแนวหน้าของประเทศมาร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ผ่านเวทีสัมมนารวมถึงโชว์เคสเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งอนาคตที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบแบงก์กิ้งแบบจัดเต็มในงานเดียว”
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บูธเทคโนโลยีและโซลูชันทางการเงิน
โดยกิจกรรมภายในงาน Krungsri Tech Day 2023 ครั้งนี้ เป็นการแนะนำให้รู้จักกับเทคโนโลยีและโซลูชันทางการเงินแห่งอนาคต อาทิ การให้บริการทางการเงินแบบเปิด (Open Banking) การชำระสินค้าด้วยการสแกนใบหน้า การโอนถ่ายข้อมูลผ่านเสียง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่าง Chatbot และ Generative AI
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการของกรุงศรีที่ตอบโจทย์ธุรกิจและการใช้ชีวิตของทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ โครงการพิเศษที่ทาง กรุงศรี นิมเบิล ซึ่งเป็นฮับในการสร้างและดูแลโซลูชันด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ในการใช้เทคโนโลยี Innovation Project: VR มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทางด้านการแพทย์ เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคกลัว (Phobia) รวมถึง กรุงศรี ฟินโนเวต ผู้นำด้านการสนับสนุนและลงทุนในเทคโนโลยีนวัตกรรมและสตาร์ทอัพทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค ร่วมแนะนำการลงทุนในกองทุนและกลุ่มสตาร์ทอัพที่น่าสนใจนอกจากนี้ยังมีการนำเสนอโซลูชันสุดล้ำจากพันธมิตรบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลก ร่วมด้วยสตาร์ทอัพมาแรงแห่งยุคอีกมากมาย
บูธจัดแสดงการใช้เทคโนโลยี Innovation Project: VR มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทางด้านการแพทย์ เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคกลัว (Phobia)
นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ แล้ว กลยุทธ์ที่สำคัญของกลุ่มงานเทคโนโลยีและดิจิทัลของกรุงศรีคือการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้ทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งกรุงศรีได้ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรสายเทคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสนับสนุนธุรกิจทั้งของธนาคารและลูกค้า รวมถึงการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
โดยกรุงศรีดำเนินการย้ายศูนย์คอมพิวเตอร์หลักไปที่ศูนย์แห่งใหม่ แล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ในการเพิ่มพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเท่าตัว โดยสามารถรองรับการพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ จากการขยายตัวของธุรกิจได้ยาวนานขึ้นถึงอีก 20 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน กรุงศรีกำลังดำเนินการยกระดับระบบงานหลักของธนาคาร หรือ Core Banking ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการอีกระยะหนึ่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความคล่องตัว และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในยุคดิจิทัลแบงก์กิ้ง ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการช่วยลดต้นทุนด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันในอนาคตอีกด้วย
ในส่วนของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ “พนักงาน” ถือเป็นหัวใจสำคัญ จะต้องมีการเสริมสร้างและพัฒนาให้พนักงานได้เรียนรู้และเข้าใจถึงเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป โดยกรุงศรีได้จัดตั้ง Stellar by Krungsri ขึ้น ทำหน้าที่เป็นหน่วยงาน Innovation Center ที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ โดยทำงานร่วมกับทีมที่เกี่ยวข้องทั้งภายในองค์กร และพันธมิตรทางธุรกิจต่าง ๆ เพื่อพัฒนาหรือต่อยอดไอเดียทางนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความท้าทายทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการค้นคว้าและทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อคว้าโอกาสการเติบโตของธุรกิจอีกด้วย
“ด้วยการยกระดับที่ครบทุกมิติทั้งเรื่องของคน กระบวนการ เทคโนโลยี และเครือข่าย MUFG ที่แข็งแกร่ง รวมถึงองค์ความรู้ที่มาจากหลากหลายประเทศทั่วโลกกรุงศรีเชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ และโซลูชันทางการเงินใหม่ ๆ ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และพร้อมที่จะพลิกโฉมธุรกิจให้สามารถเติบโตทันกระแส สอดรับกับเทรนด์แห่งโลกอนาคตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป” นายสยาม กล่าวปิดท้าย
นอกจากบูธจัดกิจกรรมของผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือบริษัทในเครือแล้ว ในงาน Krungsri Tech Day 2023: Together Now and Next ครั้งนี้ยังมีพันธมิตรบริษัทเทคโนโลยีมากมายของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่มาร่วมเปิดบูธแสดงนวัตกรรมอีกมากมาย ซึ่งแต่ละบริการก็มีความน่าสนใจไม่น้อย
APPMAN เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน AI และ Machine learning ซึ่งนวัตกรรมที่นำเสนอในงานก็คือระบบ Background Checker ที่จะพลิกโฉมการทำงานในฝ่ายบุคคลขององค์กร เพราะสามารถตรวจสอบพนักงานผ่านระบบดิจิทัลแบบ 100% มาพร้อมระบบ AI ที่จะสรุปประวัติโดยย่อและเนื้อหาที่พบ ประกอบด้วย ข้อมูลประวัติอาชญากรรมจากตำรวจ, ประวัติการทำงานจากสำนักงานประกันสังคม, สถานะบุคคลล้อมละลายจากกรมบังคับคดี ซึ่งจะรู้ผลภายใน 48 ชั่วโมง เพียงแค่ HR เพิ่มรายชื่อพนักงานที่ต้องการตรวจสอบเข้าสู่ระบบ ช่วยทั้งลดภาระงานของ HR, เช็กประวัติได้สะดวกรวดเร็ว, ระบบสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ
ChocoCRM คือทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน CRM (Customer Relationship Management) ที่พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อทำให้ธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง และได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านบริหารจัดการธุรกิจ, การบริหารจัดการลูกค้า, และการวางแผนทางด้านการตลาด ประกอบด้วย
WISESIGHT มาพร้อมระบบ OMNICHANNEL SOLUTION ระบบบริหารจัดการลูกค้าแบบ All-in-One เชื่อมต่อทุกช่องทางการสื่อสารทั้งออนไลน์และออฟไลน์ไว้บนแพลตฟอร์มเดียว โดยเป็นการออกแบบและพัฒนาโดยคนไทย จึงเข้าใจทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคและผู้ให้บริการไทยเป็นอย่างดี ระบบสามารถตอบทุกคำถามและแก้ไขทุกปัญหาได้แบบเรียลไทม์ ลดโอกาสการเกิดวิกฤติที่ส่งผลกระทบต่อแบรนด์ โดยไฮไลท์ของระบบก็คือ
|
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว |