Lenovo บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ เข็นอัปเดตล่าสุดให้กับผู้ใช้งานโน้ตบุ๊คเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประกอบด้วยการแก้ปัญหาความปลอดภัยถึงสามจุดด้วยกันให้กับ UEFI Firmware ของตนเองที่ส่งผลกระทบกับโน้ตบุ๊คของตนเองกว่า 70 รุ่น
ช่องโหว่ความปลอดภัยดังกล่าว สามารถถูกเจาะเพื่อรันโค้ดโปรแกรมใดใดก็ตามโดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัวได้ทันทีในช่วงต้นของการบูตแพลตฟอร์มขึ้นมา และยังสามารถทำให้ผู้โจมตี บุกยึดโฟลว์การทำงานของระบบปฏิบัติการและปิดฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญได้ด้วยตนเอง ESET บริษัทรักษาความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ตชื่อดัง (ที่เรารู้จัก Nod32 กันนั่นแหละ) เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์
เครดิตภาพ : https://thehackernews.com/2022/07/new-uefi-firmware-vulnerabilities.html
จากเคสหมายเลข CVE-2022-1890, CVE-2022-1891, และ CVE-2022-1892 บัคทั้งสามมีความเกี่ยวข้องกันกับช่องโหว่ที่ Buffer Overflow ที่ทาง Lenovo อธิบายไว้ว่ามันนำไปสู่การเพิ่มระดับสิทธิ์ผู้ใช้งานบนระบบที่ถูกโจมตี โดยงานนี้ Martin Smolár จาก ESET คือผู้ค้นพบและรายงานการค้นพบดังกล่าว
ต้นตอของบัคนั้นมาจากการตรวจสอบที่ไม่เพียงพอของค่า NVRAM ที่เรียกว่า "DataSize" ในสามไดรเวอร์ที่แตกต่างกันของ ReadyBootDxe, SystemLoadDefaultDxe, และ SystemBootManagerDxe ส่งผลทำให้ Buffer Overflow และสามารถกลายเป็นอาวุธในการรันโค้ดได้
ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่ Lenovo จัดการย้ายแอดเดรสช่องโหว่ความปลอดภัย UEFI ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยในเดือนเมษายน ทางบริษัทได้ทำการแก้ไขช่องโหว่ไปแล้ว 3 จุด (CVE-2021-3970, CVE-2021-3971, และ CVE-2021-3972) ที่ถูกค้นพบโดย Smolár คนเดิมกับที่ค้นพบบัคตัวที่สอง ที่อาจนำไปสู่การฝังและรันโปรแกรมเพื่อโจมตีผู้ใช้งานได้
ถ้าหากคุณไม่แน่ใจว่าเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานที่กำลังใช้โน้ตบุ๊คที่ได้รับผลกระทบจากเฟิร์มแวร์เดียวกันหรือไม่ เราขอแนะนำให้จัดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งาน
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |