เชื่อว่าทุกคนน่าจะทราบกันดีว่า การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคหอบหืด, ปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD - Chronic Obstructive Pulmonary Disease) ภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (ARDS - Acute Respiratory Distress Syndrome) โรคถุงลมโป่งพอง และมะเร็งเกี่ยวกับทางเดินหายใจไม่ว่าจะเป็น มะเร็งปอด หลอดลม และโพรงจมูกได้มากกว่าบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ได้สูบบุหรี่อยู่หลายเท่า
และไม่ใช่เพียงแค่โรคที่ไม่ติดต่ออย่างโรคที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น แต่จากงานวิจัยของศูนย์การวิจัยและศึกษาการควบคุมการสูบบุหรี่ (Center for Tobacco Control Research and Education) จากมหาวิทยาลัย UCSF (University of California San Francisco) ประเทศสหรัฐอเมริกาก็ชี้ว่า บุคคลที่มีพฤติกรรมการสูบนั้นมีแนวโน้มว่าจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคที่มีการติดต่อผ่านทางเดินหายใจ อย่างโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza), หลอดลมอักเสบ (Acute Bronchitis) หรือปอดอักเสบ (Pneumonia) ได้ง่าย
ภาพจาก : https://industrious.info/54/10924-healthy-lungs-vs-smokers-lungs.html
Keir Lewis ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ทางเดินหายใจของมหาวิทยาลัย Swansea ประเทศอังกฤษ ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้และกล่าวว่า บุคคลที่สูบบุหรี่จะมีความแข็งแรงของเซลล์ที่ทำหน้าที่ปกป้องจมูกและทางเดินหายใจที่ต่ำ ทำให้ปอดมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ง่ายหากไปสัมผัสกับเชื้อโรคหรือไวรัส และเนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนาหรือ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดกันอยู่ในตอนนี้นั้นมีการทำลายเนื้อเยื่อปอดและแสดงอาการคล้ายโรคปอดอักเสบ ดังนั้นเขาจึงสันนิษฐานว่าบุคคลที่มีพฤติกรรมการสูบก็น่าจะมีความ เสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 และแสดงอาการรุนแรง กว่าบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้สูบบุหรี่ด้วยเช่นกัน
ข้อมูลจากวารสารทางการแพทย์ของประเทศจีนก็ได้ระบุว่า ผู้ป่วย COVID-19 ทั้งหมดจำนวน 78 คนนั้นแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่มีประวัติว่าเคยสูบบุหรี่หรือเสพติดบุหรี่นั้นมีอาการรุนแรงกว่าผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ถึง 14 เท่า โดยเพศชายมีอาการรุนแรงมากกว่าเพศหญิงเนื่องจากผู้ชายชาวจีนมีเปอร์เซ็นต์การสูบบุหรี่ที่มากกว่าผู้หญิงอย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง
อย่างที่ทราบกับว่าการสูบบุหรี่นั้นส่งผลต่อการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและระบบการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสของร่างกายมนุษย์ โดยบุคคลที่สูบบุหรี่นั้นมีแนวโน้มความเสี่ยงในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับปอดได้ง่ายกว่าโรคอื่นๆ อยู่แล้ว
มันเหมือนกับว่าถ้าทางเดินหายใจของคุณมีความผิดปกติตั้งแต่ต้น มันก็มีความเสี่ยงที่จะมีการพัฒนาไปเป็นภาวะปอดอักเสบได้ง่ายหากไปสัมผัสกับเชื้อ COVID-19
โดยพฤติกรรมการสูบที่ว่านี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่บุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า เพียงเท่านั้น แต่รวมพวกยาสูบอื่นๆ อย่าง ยาเส้น กัญชา หรือสารเสพติดอื่นๆ ที่เสพผ่านการสูดเข้าปอดอีกด้วย นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังระบุอีกว่าไม่ใช่เฉพาะบุคคลที่สูบเพียงเท่านั้น แต่บุคคลรอบข้างที่ได้รับ ควันบุหรี่มือ 2 หรือควันบุหรี่มือ 3 ที่ติดตามเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ ก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่มากกว่าคนที่ไม่ใกล้ชิดกับควันบุหรี่ด้วย
“การสูบบุหรี่ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่ดีเลยเพราะมันมีโอกาสในการเสพติดได้ มันเป็นการทำร้ายร่างกายและส่งผลต่อสุขภาพของเราและคนรอบข้าง นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเราแนะนำให้เลิกบุหรี่อยู่เสมอ” Suzanne Cass CEO ของ ASH (Action on Smoking and Health) หรือองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ผลักดันและรณรงค์การเลิกบุหรี่ ใน Wales กล่าว
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |