ผลงานเกม Open-world RPG ยอดเยี่ยมจากค่าย CD Projekt Red ยังคงขายดีอย่างต่อเนื่องกับเกม The Witcher 3 และมีผู้เล่นเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน อันเป็นผลพวงสืบเนื่องมาจากซีรีส์ Netflix ที่กลายเป็นกระแสและถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง ทำให้ทางบริษัทได้ออกมาประกาศว่า เกมดังกล่าวสามารถทำรายได้ไปมากถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.5 พันล้านบาทเลยทีเดียวบทแพลตฟอร์ม Steam นับตั้งแต่วางขายเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2018 ถ้าดูผิวเผินก็ถือเป็นตัวเลขความสำเร็จที่ทำสถิติไว้ให้เกมอื่นของบริษัทได้เป็นอย่างดี แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็ถือว่าตัวเลขดังกล่าวนั้นมีนัยยะอะไรบางอย่างด้วย
ในเดือนตุลาคม ปี 2018 เป็นเดือนที่ Valve เพิ่งปรับเปลี่ยนตัวเลขส่วนแบ่งรายได้ระหว่างแพลตฟอร์มกับค่ายเกม โดยปกติแล้วส่วนแบ่งมาตรฐานนั้นจะอยู่ที่ 30% สำหรับ Valve และ 70% สำหรับผู้พัฒนา ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็น 25% / 75% เมื่อเกมสามารถทำรายได้ถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 20% / 80% เมื่อเกมสามารถทำรายได้ถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนแบ่งรูปแบบใหม่นี้มีผลต่อรายได้ในอนาคตนับจากประกาศใช้ด้วย ทำให้นับแต่นี้เป็นต้นไป CD Projekt Red ก็จะได้ส่วนแบ่งสูงถึง 80% เลยทีเดียวตราบใดที่ Netflix ยังส่งผลดีให้อย่างต่อเนื่องเช่นนี้
The accumulated revenue from sales of The Witcher 3 on @Steam platform for the period of time between October 1st 2018 and today has exceeded 50M USD. As a result, we are now getting 80% on any subsequent sales of TW3 on Steam.
— CD PROJEKT IR (@CDPROJEKTRED_IR) February 20, 2020
Thank you all for your support! pic.twitter.com/JgNgrrI5h0
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |