Storm Dennis พายุไซโคลนลำดับที่ 2 (และเป็นพายุลูกที่ 13) ที่ก่อตัวขึ้นในช่วงมรสุมพายุของทวีปยุโรป ซึ่งพายุลูกนี้มีความกดอากาศต่ำสุดอยู่ที่ 920 mb และมีความเร็วลมสูงสุดอยู่ที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้พัดเข้าชายฝั่งยุโรปทั้งในประเทศไอร์แลนด์, สวีเดน, เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักรในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้
และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็เป็น ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่ทาง U.K. Met Office ที่เป็นหน่วยงานดูแลเรื่องสภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศของสหราชอาณาจักรได้ ประกาศ “รหัสแดง” (รหัสความรุนแรงสูงสุดของการเกิดพายุ) ที่บริเวณทางตอนใต้ของ Wales และในหลายพื้นที่ของประเทศอังกฤษก็เกิด น้ำท่วมหนัก
นอกจากพายุนี้จะสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนให้กับผู้คนจำนวนมากแล้ว ล่าสุดทางสำนักข่าว BBC ก็ได้มีการรายงานว่าพายุ Storm Dennis นี้ได้พัดเอา “เรือบรรทุกปริศนา” ลำหนึ่งขึ้นมาเกยตื้นอยู่ที่โขดหินชายฝั่ง County Cork บริเวณใกล้กับหมู่บ้านชาวประมง Ballycotton ในประเทศไอร์แลนด์
ภาพจาก : https://www.nytimes.com/2020/02/18/world/europe/ghost-ship-ireland-storm-dennis.html
ซึ่งเมื่อทางการของไอร์แลนด์ได้สืบต่อไปก็พบว่าเรือลำนี้เป็นเรือบรรทุกสินค้ารุ่น MV Alta ที่ประกอบขึ้นในปี 1976 และอยู่ในการครองครองของประเทศ Tanzania ที่ได้ แล่นออกจากท่าเรือ Piraeus ประเทศกรีซตั้งแต่ในช่วงเดือนกันยายนปี 2018 โดยมีจุดหมายอยู่ที่เกาะ Haiti
Rescue 117 was tasked earlier today to a vessel aground near Ballycotton, Cork. There was nobody on board. Previously the @USCG had rescued the 10 crew members from the vessel back in September 2018. The vessel has been drifting since and today came ashore on the Cork coastline. pic.twitter.com/NbvlZ89KSY
— Irish Coast Guard (@IrishCoastGuard) February 16, 2020
แต่เมื่อออกสู่ทะเลได้ราว 20 วัน ก็ขาดการติดต่อไปจากการประสบกับ พายุเฮอร์ริเคนถล่ม และไม่กี่วันหลังจากนั้นก็มีการพบว่าเรือลำนี้ ดับอยู่กลางทะเล Atlantic 1380 ไมล์ (2,220 กิโลเมตร) จากบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา และลูกเรือทั้ง 10 คนก็ได้รับการช่วยเหลือจากเครื่องบินของ U.S. Coast Guard (ศูนย์ป้องกันและกู้ภัยในแถบชายฝั่งของสหรัฐอเมริกา) ไปส่งที่ประเทศ Puerto Rico อย่างปลอดภัยในวันที่ 2 ตุลาคม 2018
และในเดือน กันยายนปี 2019 ก็มีการรายงานจากเรือลาดตระเวน Royal Navy’s Ice Patrol Ship ของประเทศอังกฤษว่า พบเรือลำนี้อีกครั้ง หนึ่งบริเวณกลางทะเล Atlantic ค่อนไปทางชายฝั่งแอฟริกัน ซึ่งปกติแล้วเรือที่ลอยค้างอยู่กลางทะเลนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าของเรือลำนั้นๆ ดังนั้นเรือลาดตระเวนที่พบเห็นจึงไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการขับเรือเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับลูกเรือที่อาจตกค้างอยู่ และเมื่อพบว่าไม่มีการตอบกลับใดๆ จากเรือลำนั้นจึงปล่อยเอาไว้อย่างเดิมนั่นเอง
Two weeks ago we reported the discovery of MV Alta, an apparently abandoned ‘#Ghost #Ship’. 👻⛴
— HMS Protector (@hmsprotector) September 14, 2019
Having investigated our find we discovered that this ship was abandoned 12 months ago after the crew were all safely rescued. 🌊🚢🇬🇧
More info here:https://t.co/iDosAuGy2a… https://t.co/PduVXlR3qn pic.twitter.com/G2mipKNvrI
หลังจากที่ลอยค้างกลางทะเลมาร่วม 18 เดือนก็ได้มาเกยโขดหินริมชายฝั่ง County Cork ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น และทางสมาคมประมงก็ได้ส่งนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมลงมาตรวจสอบเรือลำนี้ และพบว่า ไม่มีสารพิษรั่วไหลออกมาจากเรือ
ภาพจาก : https://www.bbc.com/news/world-europe-51534957
John Tatton หัวหน้าสมาคมเรือกู้ชีพ RNLI (Royal National Lifeboat Institution) ของหมู่บ้าน Ballycotton ที่เรือเกยฝั่งอยู่นั้นก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า
“ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต เธอ (เรือลำนี้) อาจจะเป็นหนึ่งในล้านเลยก็ได้ที่เดินทางจากชายฝั่งแอฟริกันมายังชายฝั่งสเปน ก่อนจะไปที่ตอนตะวันตกของอังกฤษและจบลงที่ชายฝั่งไอร์แลนด์”
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ว่าเรือลำนี้สามารถลอยอยู่ในทะเลทั้งที่ไม่มีเชื้อเพลิงและลูกเรือโดยที่ไม่จมไปก่อนได้อย่างไร?
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |