เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา Dropbox ได้ปล่อย Dropbox Transfer (Beta) ที่เป็นการแชร์ไฟล์ให้กับสมาขิก Dropbox คนอื่นๆ และบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ Dropbox ออกมา โดยหวังว่ามันจะช่วยแก้ปัญหาของการรับส่งไฟล์ผ่าน E-mail ที่มักกำหนดขนาดสูงสุดของการส่งไฟล์อยู่ที่ 25 MB ต่อไฟล์ ทำให้ส่วนมากได้รับไฟล์ในแบบสำเร็จรูปที่ไม่สามารถนำไปแก้ไขอะไรต่อได้
และในตอนนี้ทาง Dropbox ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้ Dropbox ทุกคนได้ใช้บริการของ Dropbox Transfer เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Dropbox Basic (Free Account) ที่สามารถส่งไฟล์ขนาดสูงสุดได้ถึง 100 MB ต่อไฟล์ (มีอายุไฟล์สูงสุดอยู่ที่ 7 วัน) ในส่วนของผู้ที่ใช้ Dropbox Plus หรือ Business จะสามารถส่งไฟล์ได้สูงสุด 2 GB ต่อครั้ง! ต่อไฟล์ และสำหรับผู้ที่สมัครใช้ Dropbox Professional, Business Advanced, Enterprise หรือ Education คุณจะสามารถส่งไฟล์ได้สูงสุดถึง 100 GB สำหรับการ Transfer 1 ครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถตั้งพาสเวิร์ดเพื่อป้องกันไฟล์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง, เลือกวันหมดอายุของไฟล์ (โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ 7, 30, 60 และ 90 วัน), กำหนดจำนวนครั้งในการเปิดให้ดาวน์โหลดไฟล์ และยังสามารถกำหนดรูปแบบของ Transfer page ของคุณได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสี,รูปภาพพื้นหลัง หรืออัปโหลดรูปโลโก้ของบริษัทต่างๆ ขึ้นบนหน้า Transfer page ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ภาพจาก : https://blog.dropbox.com/topics/product-tips/send-large-files-transfer
โดยเมื่อคุณลากไฟล์ที่ต้องการมาแล้วกด Transfer คุณก็จะได้ลิงค์ที่สามารถส่งต่อไปให้กับบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ Dropbox ได้ดาวน์โหลดไฟล์ที่อยู่ใน Dropbox Transfer ได้อีกด้วย และสำหรับสมาชิก Dropbox นอกจากจะดาวน์โหลดไฟล์ได้แล้วยังสามารถเลือกเก็บไฟล์ไว้ใน Dropbox ของตนเองเพื่อดาวน์โหลดในภายหลังได้อีกด้วย (คล้ายกับการใช้ Line Keep)
ซึ่ง Dropbox Transfer ไม่เพียงจะมีบริการบนหน้าเว็บเพจ (dropbox.com/transfer) เท่านั้น แต่ยังมีแอปพลิเคชันบนเดสก์ทอปและ iOS ให้เลือกใช้อีกด้วย
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |