ในยุคที่การซื้อขายออนไลน์เป็นเรื่องง่ายดายแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าเราจะใช้โซเชียลมีเดียในช่องทางไหนก็สามารถเสียเงินซื้อของได้ทั้งสิ้น แน่นอนว่าบริษัทอย่าง Facebook เองก็สังเกตเห็นในจุดนี้เช่นเดียวกัน จึงได้ออกมาประกาศว่าจะสร้างเครือข่ายการซื้อขายผ่านสกุลเงินออนไลน์ (Cryptocurrency) ที่มีชื่อว่า Libra ขึ้นมา และคาดหวังว่าจะสามารถใช้ Libra ในการซื้อขายของทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ได้ โดยในช่วงแรกน่าจะใช้เป็นการโอนเงินผ่านธนาคารก่อนที่จะขยายขอบเขตไปเป็นการใช้ Libra ในการใช้จ่ายซื้อของได้เหมือนกับเงินดอลลาร์ในปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งการกู้ยืมเงินออนไลน์ก็คาดว่าจะสามารถทำได้ในเร็ววันนี้เช่นกัน
ทาง Facebook ก็ได้วางแผนว่าจะดำเนินโปรเจคได้ในปลายปีนี้ และในเบื้องต้นสามารถรวบรวมองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Mastercard, Visa, Paypal, eBay, Spotify, Uber, Coinbase รวมทั้งบริษัทอื่นๆ ถึง 29 บริษัท เข้ามาเป็นหุ้นส่วนได้ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ภาพจาก : https://lifars.com/2019/06/facebook-unveils-cryptocurrency-libra/
แต่ในตอนนี้บริษัท Paypal กลับประกาศถอนตัวออกจากโปรเจค Libra ของทาง Facebook ไปเสียอย่างนั้น โดยเหตุผลที่ Paypal ขอถอนตัวออกก็ไม่ได้ปรากฏแน่ชัด แต่ได้แจ้งว่าขอโฟกัสในเรื่องธุรกิจและการบริการทางการเงินที่ตนเองดูแลอยู่ในขณะนี้เป็นหลักก่อน
“แม้ว่าทางเราจะถอนตัวออกมาจากโปรเจคนี้แต่ก็ยังคงให้การสนับสนุนโปรเจค Libra ต่อไป และในฐานะที่ Facebook เป็นคู่ค้าทางธุรกิจของเรามาอย่างยาวนาน เราก็คาดหวังว่าอาจจะได้ร่วมงานกันใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้”
จากการที่หุ้นส่วนรายใหญ่อย่าง Paypal ถอนตัวออกไปนั้นทำให้ทางบริษัท Facebook เองก็คงจะต้องผลักดันโปรเจคนี้หนักขึ้นไปอีก เพราะด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมานานของ Paypal นั้นก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวหลักที่ทำให้ลูกค้าส่วนมากหันมาสนใจและไว้วางใจ Libra เลยก็ว่าได้
ด้าน Dante Disparte ที่เป็นคนดูแลเรื่องนโยบายของ Libra ได้ออกมาประกาศว่าทางหุ้นส่วนทั้งหมดของโปรเจค Libra จะมีการประชุมกันอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ที่กรุงเจนิวา ประเทศสวิ9เซอแลนด์ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าหุ้นส่วนบริษัทอื่นๆ จะมีใครเข้าไปประชุมกันบ้าง เพราะหลังจากที่ Paypal ประกาศถอนตัวออกไปแล้วนั้น ทางสำนักข่าว The Wall Street Journal ก็ได้มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่าบริษัทอย่าง Mastercard และ Visa ที่เป็นหุ้นส่วนในขณะนี้ก็กำลังพิจารณาในเรื่องการถอนตัวออกจากโปรเจคนี้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท Mastercard ไม่ได้ออกมาตอบรับข่าวลือนี้ ในขณะที่ Al Kelly CEO ของทางบริษัท Visa ได้ออกมากล่าวว่า
"ในตอนนี้ทาง Visa จะให้การสนับสนุนโปรเจค Libra อย่างชั่วคราวไปก่อน ความเป็นจริงแล้วก็ยังไม่ได้มีบริษัทไหนที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคนี้อย่างเป็นทางการเพราะเรายังไม่ได้เซ็นสัญญาผูกมัดอะไรกัน เพียงแต่ร่วมกันลงชื่อว่าพวกเรามีความสนใจที่จะเข้าร่วมโปรเจคนี้เพียงเท่านั้น และพวกเรา (บริษัทที่ลงนามเป็นหุ้นส่วนทั้งหมด) ยังคงมีเวลาในการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมโปรเจคนี้อย่างเป็นทางการอยู่ และแน่นอนว่ามันมีปัจจัยหลายอย่างที่เราจะต้องพิจารณาร่วมก่อนลงทุน อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทก็เชื่อว่าเราอาจจะสามารถช่วยเหลือโปรเจคนี้ได้บ้าง"
นอกจากนี้แล้วเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศสได้ออกมาประกาศว่าไม่สนับสนุนและไม่อนุญาตให้ใช้ Libra ภายในประเทศของตนเนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยทางการเงิน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า Facebook ได้ทำข้อมูลของผู้ใช้รั่วไหลไปเมื่อไม่นานมานี้
จากการถอนตัวออกของ Paypal, ข่าวลือจากทาง Mastercard และ Visa รวมทั้งการประกาศแบนจากประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศสนั้นอาจเป็นสัญญาณว่าโปรเจคนี้อาจจะไปได้อีกไม่ไกลแล้ว แม้ว่าหุ้นส่วนที่สำคัญอีกเจ้าอย่าง eBay ยังไม่ได้มีประกาศอะไรออกมา แต่การที่ทั้ง 3 บริษัทยักษ์ใหญ่นี้ออกมาประกาศว่าจะถอนตัวออกก็อาจทำให้หลายๆ บริษัทเริ่มพิจารณาถึงการเข้าร่วมโปรเจค Libra นี้กันใหม่ ไม่แน่ว่า Mark Zuckerburg ก็อาจจะชะลอการเปิดตัวโปรเจคนี้ไปจากปี 2020 อีกก็เป็นได้
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |