พาหนะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน หรือดีเซลจะมีเสียงดังในขณะที่เครื่องกำลังทำงานอยู่ แต่มาปัจจุบันนี้ พาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเครื่องยนต์ไฟฟ้านั้นมีจุดเด่นตรงที่ทำงานได้เงียบมาก
ในความคิดโดยทั่วไป การที่พาหนะทำงานได้แบบเงียบๆ น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะมันช่วยลดมลภาวะทางเสียงบนท้องถนน ไม่สร้างความรำคาญ เวลาไปซิ่งผ่านหน้าบ้านใครยามดึกดื่น แต่ล่าสุดทางองค์กรบริหารความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐอเมริกา (National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA)) ได้ออกมาประกาศว่า พาหนะที่ทำงานได้แบบเงียบเชียบจะต้อง "ปล่อยเสียง" เวลาที่วิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า 20 ไมล์/ชม. (32.18 กม./ชม.)
เหตุผลก็สืบเนื่องมาจากพาหนะที่สามารถขับเคลื่อนได้แบบเงียบๆ นั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้พิการทางสายตา, คนชรา, เด็ก, คนที่กำลังเหม่อลอย หรือผู้ปั่นจักรยานได้ เนื่องจากไม่ได้ยิน จึงไม่เกิดการรับรู้ว่ามีพาหนะกำลังแล่นผ่าน
ส่วนที่ต้องกำหนดเอาไว้ที่อัตรา 20 ไมล์/ชม. ก็เป็นเพราะว่าหากพาหนะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกว่านั้นแล้ว มันจะมีเสียงที่เกิดจากยางที่กำลังบดถนน หรือเสียงแรงต้านลมอยู่แล้ว
ภาพจาก https://edwinweitenberg.com/vehicle-framework
ขณะนี้ทาง NHTSA กำลังทำการสำรวจความคิดเห็นสาธารณะอยู่ว่าควรจำกัด "จำนวนเสียง" ที่ผู้ผลิตสามารถเลือกติดตั้งลงไปในพาหนะหรือไม่ และหากว่าไม่ ควรจะใส่ได้สูงสุดกี่เสียงถึงจะเหมาะสม
กฏข้อบังคับนี้ได้ถูกเสนอตั้งแต่เมื่อปี 2010 และได้ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน แต่มันกำลังจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้วในปี 2020 ที่จะถึงนี้
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |