ความมั่นใจในตัวเอง อาจจะช่วยให้เราได้งานในฝัน หรือทำให้เราสามารถตัดสินใจทำบางอย่างที่ทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาพร้อมกับความมั่นใจ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะความมั่นใจเป็นสิ่งที่สามารถสร้างขึ้นได้ และในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า เราจะสร้างความมั่นใจได้อย่างไร
ทุกๆ คนมีการตอบสนองต่อคำชมที่ต่างกัน การที่เราแสดงความเขินอายเมื่อได้รับคำชม นั้นเป็นวิธีการตอบสนองต่อคำชมที่ไม่ดีนัก แสดงให้เห็นว่าเราไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย นอกจากนี้ยังอาจทำให้คนที่ชื่นชมเรา คิดว่าคำชมของเขานั้นไร้คุณค่าอีกด้วย
วิธีที่ดีที่สุดในการตอบรับคำชมเชยก็คือ การยิ้มอย่างจริงใจ และพูดว่า "ขอบคุณ" ก็ถือว่าเป็นการวางตัวที่ดีแล้ว
ชีวิตในแต่ละวันของคนทำงาน อาจจะมีตารางงานที่แน่นมากๆ อาจจะมี รับสายโทรศัพท์ 20 ครั้ง ประชุม 2 ครั้ง อ่านและตอบกลับอีเมลจำนวนมาก และไม่มีแม้แต่เพียงนาทีเดียวที่รู้สึกว่าเราทำงานไร้ประสิทธิภาพ แต่แทนที่เราจะรู้สึกดีกับตัวเองที่สามารถสะสางงานหลายๆ อย่างให้เสร็จสิ้นไป หลายคนๆ กลับรู้สึกผิดหวังที่ผลงานบางอย่างออกมาไม่ดีพอ
เมื่อคุณตั้งเป้าหมายสูงจนเกินกว่าที่จะทำให้มันเป็นจริงได้ ก็จะทำให้เกิดความกังวลและความเครียดจากความผิดหวัง แต่ต้องจำไว้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้นก็มีความผิดพลาดบ้าง เสียใจบ้าง กับการตัดสินใจบางอย่าง แต่พวกเขาเห็นสิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียน และเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น
คุณสามารถรับรู้อารมณ์ และความรู้สึกของบุคคลได้ โดยมองไปที่ดวงตาของพวกเขา โดยที่ทารกก็มองไปที่ดวงตาของพ่อและแม่ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับอารมณ์ได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือน และอีกอย่างหนึ่งคือคนโกหกมักจะเบนสายตาหนีเพื่อที่จะซ่อนความจริงที่พวกเขาโกหกอยู่นั่นเอง
เมื่อมีคนหลีกเลี่ยงการสบตา หมายความว่าพวกเขาไม่มีความมั่นใจในตนเอง ดังนั้นการที่คุณสบตาผู้อื่นจะช่วยให้คุณได้รับความใว้วางใจ และได้รับความจริงใจจากเขา
ท่าทางการเดินยืดหลังตรงไหล่สง่าเปิดกว้าง และท่าการเดินที่มั่นใจ นี่คือ สัญญาณทั้งหมดของคนที่มีความมั่นใจ
ในขณะเดินสายตาควรมองไปข้างหน้า อย่าเอาแต่ก้มมองพื้น เพราะว่าคนรอบตัวคุณจะสังเกตเห็นสิ่งนี้ และมองว่าคุณดูแปลกกว่าคนอื่น และมีผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ภาษากายของคนเราที่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจนั้น จะช่วยลดระดับความเครียดของเราได้
การควบคุมบทสนทนาที่เกิดขึ้นภายในความคิดของตัวเราเองนั้นเป็นอะไรที่ทำได้ยาก แต่มีประสิทธิภาพมากในการฝึกฝนตนเอง ใครหลายคนอาจจะคิดอะไรต่างๆ ในแง่ร้ายว่าทำอะไรก็กลัวผิดพลาดไปหมด ซึ่งมันไม่ได้มีผลดีต่อความรู้สึกเราเลย
การแก้ปัญหานั่นก็คือ คิดไปในเชิงบวกเข้าไว้ อย่างเช่นถ้าเราทำงานบางอย่าง เราก็ต้องคิดว่า เราต้องทำให้สำเร็จ และเราต้องทำได้!
เฝ้าดูความรู้สึกตัวเองว่า เรามีความคิดถึงเรื่องที่แย่ๆ หรือเผลอคิดเรื่องที่ทำให้เราเองต้องรู้สึกกังวลขึ้นมาเมื่อไหร่ มันอาจจะเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันใด หรือเราอาจจะรู้สึกดีมาตลอดทั้งวัน แต่พอจะเข้านอน ความรู้สึกกังวล หรือความคิดแย่ๆ ก็จะเข้ามาโจมตีเราทันที
พยายามเพิกเฉยต่อความคิด หรือเรื่องที่ไม่ดีต่อตัวเรา เพราะมันจะลดทอนความมั่นใจของเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม เราควรมีสติแล้วคิดถึงเรื่องงานที่ทำงานอยู่ต่อหน้า หรือคิดถึงกิจกรรมที่ทำอยู่ ณ เวลาปัจจุบัน ดีกว่าปล่อยใจให้ลอยไปคิดถึงเรื่องแย่ๆ การมีสติอยู่กับช่วงเวลาปัจจุบันนอกจากจะช่วยให้เรามีความสุขแล้ว ก็ยังทำให้เรามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นได้
ตั้งเป้าหมายความสำเร็จในแต่ละวัน แล้วขยายเป้าให้สูงขึ้นทีละนิด และเป้าหมายไม่จำเป็นต้องใหญ่โต อย่างเช่น กินอาหารเฮลท์ตี้วันละมื้อ หรืออ่านหนังสืออย่างน้อย 20 หน้าในแต่ละวัน แค่นี้ก็เป็นเป้าหมายในแต่ละวันที่ดีพอแล้ว
เมื่อเราสามารถทำสำเร็จตามเป้าหมายในแต่ละวัน ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็ทำให้เรามีความภูมิใจและมั่นใจในตัวเองได้นะ
บางครั้ง ความมั่นใจก็เกิดจากการวางตัวอย่างเหมาะสม เราไม่จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจด้วยการเปิดบทสนทนากับคนที่ดูดีที่สุด ให้เริ่มง่ายๆ ด้วยการส่งรอยยิ้ม ส่งเอกสารสมัครงานด้วยความมั่นใจ ไม่ต้องวิตกกังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิด ยินดีแบกรับความเสี่ยงและความรับผิดชอบดังเช่นคนที่มีความมั่นใจพึงกระทำ
อีกหนึ่งวิธีสร้างความมั่นใจที่น่าลองคือ การพูดคุยกับคนแปลกหน้า ลองออกไปร่วมงานกิจกรรมที่เราไม่รู้จักใครเลย ลองแสดงออกว่าเราเป็นคนที่มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม มันอาจจะไม่ง่ายเลยที่เราจะแสดงความมั่นใจท่ามกลางคนแปลกหน้า แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อเวลาผ่านไป มันจะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้นในภายหลัง
นอกจากนี้ให้ลองสนทนากับคนแปลกหน้าในชีวิตประจำวันของคุณ ลองพูดคุยกับคนในออฟฟิศเดียวกันที่เราไม่เคยคุยด้วยมาก่อน ลองคุยกับพนักงานเก็บเงินในร้านอาหาร หวังว่าวิธีการนี้จะช่วยทำให้เรามั่นใจขึ้นได้ แต่ถ้าลองทำแล้วความมั่นใจไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย หรือรู้สึกแย่ที่ต้องพูดกับคนแปลกหน้า ก็ให้หยุดวิธีการนี้
ทุกคนก็ล้วนชอบที่จะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ และมีคุณค่า เป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่รู้ว่ามีคนคอยช่วยเหลือ ทุกคนควรมีใครสักคนที่เราสามารถพึ่งพาอาศัยได้ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะขอความช่วยเหลือ หรือเสนอความช่วยเหลือ
การเสนอความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นทำให้คุณรู้สึกว่ามีความสำคัญ และมีประโยชน์ ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่รู้สึกเหงาอีกด้วย
อย่าดูรูปถ่ายของคนอื่นที่คุณรู้จักแล้วนำมาเปรียบเทียบกับตัวเอง ความคิดนี้จะทำลายความมั่นใจของตนเองอย่างรุนแรง และเป็นการทำให้คุณรู้สึกด้อยกว่า
ตรวจสอบสื่อโซเชียลของคุณ ยกเลิกการติดตามผู้ใช้ที่โพสต์รูปถ่ายของตัวเองตลอดเวลา และหยุดพักจากเล่นโซเชียลมีเดียเป็นบางครั้งคราว
|