ข่าวดีสำหรับคนที่อยากจะลดการดื่มน้ำอัดลม น้ำชาเขียว หรือเลิกดื่มอย่างจริงๆ จังๆ สักที เพราะข่าวนี้อาจจะทำให้เราตัดสินใจเลิกดื่มน้ำที่มีความหวานได้ง่ายขึ้น
โดยนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ให้รายละเอียดว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป ทางกรมสรรพสามิต จะเพิ่มอัตราการเก็บภาษีความหวานตามกฎหมายใหม่ ทำให้เครื่องดื่มที่มีความหวานเกินค่ากำหนด จะต้องเสียภาษีมากขึ้น ซึ่งอาจจส่งผลให้ น้ำอัดลม, น้ำผลไม้, ชาเขียว, เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และน้ำอัดลมกระป๋องที่มีปริมาณ 250 cc (มิลลิลิตร) ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นราวๆ 10 สตางค์ อาจทำให้บางแบรนด์เพิ่มราคาขายสินค้าก็เป็นได้
และเพื่อตอบรับกฎหมายใหม่ ผู้ผลิตบางรายได้เลือกที่จะปรับลดความหวานในเครื่องดื่มลง โดยลดสัดส่วนน้ำตาลจาก 14 กรัมต่อลิตร ให้เหลือเพียง 12 กรัมต่อลิตร เพื่อให้เสียภาษีต่ำลง ส่วนเครื่องดื่มประเภทน้ำโคล่า นั้นไม่มีการปรับลดระดับน้ำตาลในเครื่องดื่ม เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ และจะกระทบกับรสชาติของเครื่องดื่ม
โดยอัตราภาษีความหวานใหม่ ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ไปจนถึง 30 กันยายน 2564 กำหนดไว้ว่า
และในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ไปจนถึง 30 กันยายน 2566 อัตราภาษีความหวานอยู่ที่
และในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป อัตราภาษีความหวานอยู่ที่
เรียกว่าเป็นอัตราการเก็บภาษีแบบก้าวหน้า ยิ่งน้ำตาลมาก ยิ่งต้องจ่ายแพง และยิ่งนานวันไป เครื่องดื่มที่มีความหวานก็จะถูกเรียกเก็บภาษีแพงขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้น่าจะบีบให้ทางฝั่งผู้ผลิตเครื่องดื่ม ค่อยๆ ลดระดับน้ำตาลลงเรื่อยๆ ซึ่งก็น่าจะส่งผลดีต่อสุขภาพ หรือไม่เราอาจต้องจ่ายแพงขึ้น เพื่อแลกกับเครื่องดื่มที่มีระดับน้ำตาล หวานชื่นใจเท่าเดิม
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |