งาน CES 2019 (Consumer Electronics Show) ที่ลาสเวกัสในปีนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วนะครับ ขอเกริ่นสักเล็กน้อยให้คนที่ไม่รู้จักงานนี้ได้เข้าใจกันสักเล็กน้อยว่ามันคืองานอะไร งาน CES คือ งานแสดงเทคโนโลยีของสินค้าสำหรับผู้บริโภค ซึ่งผู้ผลิตชั้นนำจำนวนมากก็จะขน "ของเล่นใหม่" มาโชว์นวัตกรรมให้ได้ชมกัน โดยเทคโนโลยีส่วนใหญ่ที่เราได้เห็นในงาน CES จะเป็นเสมือนอาหารออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยก่อนวางขายจริง
สำหรับในปีนี้จะมีอุปกรณ์, แกดเจ็ต ตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกัน
ทีวีจอยักษ์ไร้ขอบสุดสวย
ในงาน CES 2018 ค่าย Samsung ได้โชว์เทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ที่เรียกว่า MicroLED มาปีนี้ Samsung ได้ต่อยอดเทคโนโลยีดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยปีนี้ Samsung ได้เปิดตัวทีวี 2 ขนาดรุ่นใหม่ The Wall ขนาด 219 นิ้ว และ The Windows ขนาด 75 นิ้ว
Samsung เผยว่าเทคโนโลยี MIcroLed เป็นเทคโนโลยีที่สามารถปรับแต่งขนาดหน้าจอตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างอิสระ แม้แต่จอในสัดส่วนแปลกๆ อย่างเช่น ขนาด 9x3, 1x7 หรือ 5x1 ก็สามารถทำได้โดยที่ความละเอียดของพิกเซลยังคงมีความหนาแน่นเท่าเดิม ซึ่งก็ต้องยกความดีให้กับเทคโนโลยี MicoLED module
ภาพจาก Chris Welch / The Verge
อย่างไรก็ตาม ทาง Samsung ยังไม่เปิดเผยราคา และวันวางจำหน่ายของทีวีรุ่นใหม่นี้แต่อย่างใด
หุ่นยนต์พับผ้าขวัญใจพ่อบ้าน
นี่เป็นหุุ่นยนต์พับผ้าอัตโนมัติ ที่พ่อบ้านคงอยากจะได้มาใช้เป็นแน่แท้ หุ่นยนต์ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อพับผ้าในปริมาณมาก การซื้อมาใช้ที่บ้านอาจจะเป็นการลงทุนที่สิ้นเปลืองไปหน่อย แต่สำหรับร้านซักรีด หรือตามโรงแรม หุ่นยนต์ตัวนี้น่าจะช่วยเบางานไปได้เยอะเลยล่ะ ดูการทำงานของมันได้จากวิดีโอด้านล่างนี้
ราคาของ Foldimateไฃ อยู่ที่ $980 (ประมาณ 31,500 บาท) โดยทางบริษัทที่พัฒนาคาดว่าจะวางจำหน่ายได้จริงในช่วงปลายปีนี้
แหวนตีกลองสุดล้ำ
Specdrums เป็นโปรเจคส์ที่ปรากฏบน Kickstarter ภายหลังบริษัท Sphero ได้เข้าซื้อกิจการมาเป็นของตนเอง Specdrums เป็นแหวนที่สามารถเล่นเครื่องดนตรีประเภท "เคาะ" ได้อย่างหลากหลาย ผู้เล่นสามารถปรับแต่งเสียงได้หลายร้อยรูปแบบ โดยตัวแหวนจะเชื่อมต่อกับแอปบนสมาร์ทโฟนในการทำงาน
ใครอยากลองเล่น สามารถสั่งซื้อ Specdrums ผ่านหน้าเว็บของ Sphero ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ในราคาวงละ $65 หรือคู่ละ $99
ไดร์เป่าผมที่ไม่ใช้ลมร้อนในการเป่าแห้ง
อาจจะฟังดูน่าตกใจ แต่รู้หรือไม่ว่า สำหรับผู้หญิงที่ไว้ผมยาวแล้ว การไดร์ผมให้แห้งหลังสระผม มักจะใช้เวลานานถึง 30 นาทีเลยทีเดียว แต่ไดร์เป่าผมรุ่นใหม่ Volo Go ที่มาจัดแสดงในงาน CES นี้ ได้เคลมว่าสามารถใช้เวลาแค่ประมาณ 11 นาทีเท่านั้น
Volo Go มีเทคโนโลยีที่แตกต่างจากไดร์เป่าผมแบบเดิมๆ ที่เราใช้งานกันอยู่ แทนที่จะใช้ลมร้อนความแรงสูงในการทำให้ผมแห้ง มันใช้เทคโนโลยีหลอดอินฟราเรดแทน ในการส่งคลื่นไปทำให้ผมแห้งจากภายในสู่ภายนอก อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทผู้ผลิตบอกว่า Volo Go ควรจะใช้งานคู่กับ Volo Hero ผ่าขนหนูแบบพิเศษที่ทำจากผ้าไมโครไฟเบอร์ด้วย
อีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจ คือ Volo Go สามารถใช้งานแบบไร้สายได้ด้วยแบตเตอรี่ภายในตัว โดยใช้งานได้นาน 13 นาที หากเปิดโหมดแบบแรงสุด และ 24 ในโหมดความแรงปานกลาง
ราคาของ Volo Go อยู่ที่ $399 (ประมาณ 12,800 บาท) ส่วน Volo Hero อยู่ที่ $40 (ประมาณ 1,200 บาท) สินค้าจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางปีนี้
ชุดห้องน้ำอัจฉริยะ ปรับความร้อนได้ด้วยตนเอง
เพราะคนเราต้องอาบน้ำทุกวัน การสร้างประสบการณ์อาบน้ำที่ดี จึงเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การลงทุน The U จาก Moen คือ ห้องอาบน้ำแบบอัจฉริยะ ที่สามารถควบคุมการทำงานได้ด้วยเสียงผ่าน Alexa, Siri และ Google Assistant เราสามารถสั่งปรับอุณหภูมิ ปรับความแรงน้ำได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีแอปควบคุมการทำงานของห้องน้ำในสมาร์ทโฟนให้ใช้งานอีกด้วย ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจก็อย่างเช่นระบบเปิดปิดน้ำอัตโนมัติเมื่อเราเดินออกจากห้องน้ำ หรือตั้งอุณหภูมิน้ำให้อัตโนมัติตามสภาพอากาศในแต่ละวัน
ใครสนใจอยากได้ไปติดตั้งที่บ้าน งานนี้ต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อย $1,225 (ประมาณ 39,500 บาท) แล้วเข้าไปดูในเว็บของ Moen ได้เลย
เครื่องทำขนมปังสดอัตโนมัติ หอม กรุ่น จากเตา
ใครที่เคยทานขนมปังที่เพิ่งอบเสร็จออกจากเตาใหม่ๆ คงจะรู้ดีว่ามันทั้งนุ่ม และหอมขนาดไหน แต่เนื่องจากขั้นตอนที่ยุ่งยาก ร้านส่วนใหญ่ก็มักจะอบทีละเยอะๆ ออกมาทีเดียว แต่ด้วย Breadbot ร้านเบเกอรี่จะสามารถมีขนมปังอบใหม่ได้ตลอดทั้งวัน
Breadbot เป็นหุ่นยนต์ทำขนมปังที่สามารถเริ่มอบขนมปังให้เราตั้งแต่ต้น ผสมแป้ง หมัก ขึ้นรูป อบ ออกมาจนเป็นก้อนพร้อมทานเลย สามารถอบขนมปังออกมาได้ 10 ก้อน ต่อชั่วโมง
ราคา และวันวางจำหน่ายไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด เจ้าของร้านเบเกอรี่คนไหนสนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดบนเว็บไซต์ของผู้ผลิตดูได้เลย
อุปกรณ์ Smart home สุดล้ำ ใต้อาภรณ์ของธรรมชาติ
หนึ่งในความท้าทายของการสร้างอุปกรณ์จำพวก Smart home คือ การทำให้มันมีความกลมกลื่นไปกับวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัย mui บริษัทจากประเทศญี่ปุ่นมีไอเดียที่น่าสนใจด้วยการนำไม้มาเป็นวัสดุหลักในการทำ และซ่อนจอแสดงผลเอาไว้ในไม้อย่างแนบเนียน (จะว่าไปคล้ายนาฬิกาดิจิทัลไม้ตามคลองถมเลย)
หลังจากระดมทุนพัฒนาบน Kickstarter ไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดสินค้าจริงก็ได้ถูกนำมาจัดแสดงในงาน CES โดย mui เป็นอุปกรณ์ประเภท Smart home hub มีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์ที่รองรับ IoT ภายในบ้าน, บอกอุณหภูมิ, ควบคุมเครื่องเล่นเพลง, สั่งเปิดปิดไฟ ฯลฯ การแสดงข้อมูลนอกจากจะเลือกให้มันพูดตอบโต้เราด้วยเสียงได้แล้ว ยังเลือกให้แสดงเป็นข้อความบนจอที่ซ่อนอยู่ใต้ตัวเครื่องที่ทำจากไม้ได้ด้วย
ราคาของ mui อยู่ที่ $999 (ประมาณ 32,000 บาท) ตอนนี้แคมเปญสั่งจองล่วงหน้าบน Kickstarter ได้หมดเวลาไปแล้ว ใครที่อยากได้ คงจะต้องรอไปถึงช่วงเดือนกันยายนท้ายปีโน่นเลย
เครื่องปั๊มนมอัตโนมัติ ที่คุณแม่ต้องอยากได้
สองปีก่อนในงาน CES ได้มีเครื่องปั๊มนมบุตรแบบอัตโนมัติมาจัดแสดงภายในงานเป็นครั้งแรก มันเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีใครให้ความสนใจพัฒนามาก่อน ทั้งๆ ที่คุณแม่หลายๆ คนประสบปัญหาดังกล่าวมาอย่างช้านาน
ล่าสุดมันได้กลับมาอีกครั้งกับ Willow 2.0 เครื่องปั๊มนมอัตโนมัติรุ่นใหม่นี้ได้ปรับปรุงข้อเสียของรุ่นก่อนให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น เจ้า Willow เป็นอุปกรณ์ที่คุณแม่สวมใส่เอาไว้ใต้ยกทรง และปล่อยให้มันทำงานอัตโนมัติ โดยที่ยังทำกิจกรรมอย่างอื่นไปด้วยได้ตามปกติ มาพร้อมกับถุงเก็บน้ำนมดีไซน์พิเศษที่ป้องกันไม่ให้นมไหลย้อนกลับได้ ทำให้คุณแม่สามารถใช้งานมันได้แม้ว่าจะอยู่ในท่านอน ตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อกับแอปบนสมาร์ทโฟน เพื่อดูข้อมูลการปั๊มนมได้แบบเรียลไทม์ด้วยล่ะ
สำหรับคุณแม่ที่สนใจแกดเจ็ดชิ้นนี้ Willow 2.0 วางจำหน่ายแล้วในราคาคู่ละ $500 (ประมาณ 16,010 บาท) สินค้าจะเริ่มส่งในเดือนกุมภาพันธ์
ตรวจสอบสุขภาพผิวอย่างง่ายดาย ได้ตลอดเวลา
ผิวที่มีสุขภาพดีจะมีค่า pH ระหว่าง 4.5-5.5 คือ จะมีความเป็นกรดเล็กน้อย หากว่าผิวเราไม่ได้อยู่ในช่วงค่าดังกล่าวล่ะก็ จะส่งผลให้เกิดปัญหาอย่างผิวหนังอักเสบ, ผิวแตก ได้
Skin track pH เป็นอุปกรณ์ที่เกิดจากความร่วมมือในการพัฒนาระหว่าง L'Oreal และศาสตราจารย์ John Rogers ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา Wearable device ในการสร้างเซนเซอร์ตรวจจับสุขภาพผิวนี้ขึ้นมา
หลังจากที่แปะเอาไว้ประมาณ 15 นาที ผู้ใช้ก็แค่เปิดแอปในสมาร์ทโฟนขึ้นมา แล้วส่องไปที่ตัวสติ๊กเกอร์ Skin track pH เพื่อดูข้อมูลของสภาพความเป็นกรดของผิวได้เลย
อย่างไรก็ตาม สินค้าตัวนี้ยังอยู่ในขั้นตอนทดสอบก่อนจะวางจำหน่ายจริง ระหว่างนี้ใครที่สนใจอาจจะลองซื้อ My Skin Track UV มาใช้งานดูก่อนก็ได้ โดยสั่งซื้อได้ผ่าน App Store ในราคา $59.99 (ประมาณ 1,930 บาท)
ในงาน CES 2019 ยังมีสินค้าที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่ยังไม่ได้กล่าวถึง หากมีอะไรที่น่าสนใจเราจะมาอัพเดทแนะนำให้คุณผู้อ่านได้เสพย์กันอย่างแน่นอน
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |