ไนกี้เปิดประสบการณ์ปฏิวัติวงการนักยัดห่วงด้วย ไนกี้พลัส บาสเกตบอล
ไนกี้ อิงค์ เผยโฉม ไนกี้พลัส บาสเกตบอล (Nike+ Basketball) และ ไนกี้พลัส เทรนนิ่ง (Nike+ Training) สองเทคโนโลยีใหม่ที่เชื่อมต่อรองเท้าซึ่งรองรับระบบไนกี้พลัสเข้ากับแอปพลิเคชันบนมือถือด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล และ ไนกี้พลัส ฟิวเอลแบนด์ (Nike+ FuelBand) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในรูปแบบสายรัดข้อมือที่ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
ไนกี้พลัส บาสเกตบอล จะวัดค่าว่าผู้เล่นกระโดดสูงเท่าไรและเล่นเกมนั้นๆ อย่างหนักหน่วงและรวดเร็วเพียงใดโดยการใช้โหมด Track My Game รองเท้าบาสเกตบอลที่รองรับเทคโนโลยีไนกี้พลัสจะเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวในช่วงของเกมการแข่งขันนั้นๆ โดยตลอดและจะส่งข้อมูลที่ได้ไปยังผู้ใช้บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน จึงเป็นข้อมูลอ้างอิงให้พวกเขาได้ทราบว่าจะต้องพัฒนาตัวเองจากตรงจุดใด เมื่อสามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆ ได้ จะมีข้อความจากผู้เล่นและโค้ชของไนกี้บาสเกตบอลช่วยให้แรงกระตุ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ประสบการณ์รูปแบบนี้ยังนำเสนอโหมด Showcase ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ผู้เล่นเก็บบันทึกการดังค์และนำข้อมูลสดๆ นั้นไปวางซ้อนไว้บนภาพวิดีโอ ซึ่งจะสามารถแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ร่วมรับรู้ทางสื่อสังคม
เลบรอน เจมส์ นักกีฬาชือ่ดังใน NBA กล่าวว่า “ผมคิดว่า ไนกี้พลัส บาสเกตบอล จะเปลี่ยนแปลงกีฬาชนิดนี้ เพราะการที่ผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลในระดับนี้ได้จะสร้างผลกระทบเป็นอย่างมากในแง่ที่ว่าผู้เล่นจะฝึกฝนอย่างไรและเล่นกีฬานี้อย่างไร”
“ในขณะที่คุณกำลังเติบโตขึ้นและเล่นบาสเกตบอลไปด้วย คู่แข่งของคุณก็คือเพื่อนๆ ของคุณ ผู้เล่นรุ่นเยาว์จะตื่นเต้นที่ได้เก็บสถิติของตนเองเพื่อที่จะมีหลักฐานไว้คุยฟุ้งหรืออวดฟอร์มเด็ดของตัวเองในรูปแบบวิดีโอ แล้วพวกเขาก็จะร้อนอกร้อนใจคอยเวลาที่จะได้ลงสนามอีกครั้งเพื่อทำสถิติให้ได้ดีขึ้นกว่าเดิม” เจมส์กล่าว
ไนกี้พลัส เทรนนิ่ง ได้รับการออกแบบให้เปลี่ยนการออกกำลังกายให้เป็นกีฬา โดยประสบการณ์ของ ไนกี้พลัส เทรนนิ่ง จะอิงข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกหลายๆ คน อาทิ ราฟา นาดาล, แมนนี่ ปาเกียว, อัลลีสัน เฟลิกซ์ และ โฮป โซโล ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถฝึกฝนในแบบของนักกีฬาระดับสุดยอดได้
โปรแกรมการฝึกเหล่านี้ประกอบไปด้วยท่าออกกำลังกายต่างๆ ต่อเนื่องกันเป็นช่วงสั้นๆ และหนักแน่น ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีความฟิต ความรวดเร็ว และความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยมีการสาธิตการออกกำลังกายแต่ละท่าบนหน้าจอเพื่อเป็นทั้งแนวทางและการสร้างแรงกระตุ้น และในระหว่างการฝึกหรือความท้าทายแต่ละครั้ง ผู้ใช้จะได้รับข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับการออกกำลังกายครั้งนั้นๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน ไนกี้พลัส เทรนนิ่ง บนโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้เอง และผู้ใช้ยังสามารถสร้างโปรแกรมออกกำลังกายประจำวันได้ตามความต้องการว่าจะฝึกหนักเท่าใด แอปพลิเคชันนี้ยังนำเสนอชุมชนดิจิตอลที่สามารถแบ่งปันข้อมูลการออกกำลังกายและความท้าทายในแต่ละวันได้อีกด้วย
ผู้ใช้ยังสามารถแบ่งปันสถิติการออกกำลังกายเหล่านี้หรือเปรียบเทียบกับสถิติของเพื่อนๆ ได้ทางเครือข่ายสังคมต่างๆ เพื่อเป็นการท้าทายและแข่งขันกันเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำบน Leaderboard
เทคโนโลยีของประสบการณ์ทั้งสองรูปแบบนี้ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกด Nike+ Pressure Sensor ซึ่งฝังอยู่กับรองเท้าแต่ละคู่ในการเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ จากนั้นจึงส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังเครื่องโทรศัพท์ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย แล้วจึงแปลข้อมูลเป็นหน่วยวัดต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลที่ผู้ใช้อาจจะยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการออกกำลังกายหรือข้อมูลการเล่นของตนเอง
รองเท้าบาสเกตบอลรุ่นแรกที่จะรองรับเทคโนโลยี ไนกี้พลัส คือ ไนกี้ ไฮเปอร์ดังค์ พลัส (Nike Hyperdunk+) ซึ่ง เลบรอน เจมส์ จะใช้ในการแข่งขันช่วงฤดูร้อนปีนี้
ส่วนรองเท้าเทรนนิ่งรุ่นแรกที่จะรองรับเทคโนโลยี ไนกี้พลัส คือรุ่น ลูนาร์ ไฮเปอร์ เวิร์คเอาท์ พลัส (Lunar Hyper Workout+) สำหรับผู้หญิง และ ลูนาร์ ทีอาร์ วัน พลัส (Lunar TR 1+) สำหรับผู้ชาย
รองเท้าทั้ง 3 รุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีไนกี้พลัสเป็นผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชั่น ลูนาร์ลอน ซึ่งผสานเทคโนโลยี ไนกี้ ฟลายไวร์ อันก้าวล้ำเข้ากับระบบรองรับแรงกระแทก ไนกี้ ลูนาร์ลอน ที่ออกแบบขึ้นเป็นการเฉพาะสำหรับกีฬาแต่ละประเภท
และรองเท้าทุกแบบที่รองรับเทคโนโลยีไนกี้พลัสจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และจีนแผ่นดินใหญ่ในวันที่ 29 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไปครับ
เทคโนโลยีเริ่มสอดแทรกเข้ามาอยู่ในของใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ แม้กระทั่งรองเท้ายังเชื่อมต่อกับโทรศัพท์และเข้าถึงอินเตอร์เนตเลย เชื่อว่าในอนาคตอินเตอร์เนตจะมาอยู่ในของใช้ทุกชิ้นอย่างแน่นอนครับ