ขอบคุณภาพประกอบจาก Virgin Galactic
เครื่องบินโดยสารแบบ Sub-orbital spaceflight กำลังจะเป็นเทรนด์ใหม่ของการเดินทางด้วยเครื่องบินในโลกยุคอนาคต เป็นการบินที่ระดับความสูงต่ำกว่าระดับวงโคจจรรอบโลก โดยเครื่องบินแบบ Sub-orbital นั้นจะบินขึ้นไปที่ระดับความสูงถึง 100 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล (เทียบกับเครื่องบินโดยสารปกติที่บินในระดับความสูงเพียงไม่เกิน 10 กิโลเมตร) คือเป็นการบินที่ได้สัมผัสกับขอบอวกาศกันเลยทีเดียว ข้อดีของการบินแบบ Sub-orbital spaceflight คืิอย่นระยะเวลาการเดินทางด้วยเครื่องบินไปได้มาก ตัวอย่างเช่นการเดินทางจากลอนดอนประเทศอังกฤษ ไปยังซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย โดยปกติแล้วต้องใช้เวลาเดินทางเกิน 20 ชั่วโมงขึ้นไป (รวมเวลาเปลี่ยนเครื่อง) แต่ถ้าบินด้วย Sub-orbital spaceflight เวลาเดินทางจะเหลือเพียงแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น และไม่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไหน เป็นเทคโนโลยีการเดินทางที่จะย่อให้โลกของเราเล็กลงอย่างแท้จริง
ขอบคุณภาพประกอบจาก Virgin Galactic
SpaceShipTwo ของ Virgin Galactic เครื่องบินขนาดใหญ่ที่บินพา VSS Unity (เครื่องบินลำเล็กที่อยู่ตรงกลาง) เครื่องบินความเร็วเหนือเสียงไปปล่อยที่ระดับความสูง
และเมื่อพูดถึงบริษัทด้านอากาศยานและอวกาศแล้ว นอกจากมี SpaceX ที่โดดเด่นก็ยังมีบริษัท Virgin Galactic อีกรายที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน และพวกเขาให้ความสนใจกับเทคโนโลยี Sub-orbital spaceflight ในเที่ยวบินเชิงพาณิชย์มาเป็นเวลาช้านาน และการทดสอบระบบเครื่องบินแบบ SpaceShipTwo ก็มีความก้าวหน้าขึ้นมาเป็นลำดับขั้น ตั้งแต่มีการทดสอบครั้งแรกในปี 2016 และคลิปวิดีโอนี้แสดงให้เราเห็นความคืบหน้าในการทดสอบบินครั้งล่าสุด
ความสำคัญของเที่ยวบินทดสอบที่เกิดขึ้นเหนือทะเลทราย Mojave รัฐ California ในครั้งนี้ อยู่ตรงที่เครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง VSS Unity ได้ทำการบินที่ระดับความเร็วเหนือเสียงด้วยเครื่องยนต์ของตัวเอง และสามารถ Landing ลงจอดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญมาก ในขณะที่เที่ยวบินทดสอบกับเครื่อง VSS Voyager ในปี 2016 มันไม่ได้บินด้วยเครื่องยนต์ของมันเองเลย
น่าแปลกใจเล็กๆ ที่คลิปเที่ยวบินทดสอบของ VSS Unity เป็นคลิปเงียบไม่มีเสียงประกอบแต่อย่างใด แต่คลิปนี้ได้แสดงให้เห็นขั้นตอนการปล่อยตัวเครื่องบินลำเล็ก VSS Unity ออกจากตัวลำ SpaceShipTwo หลังจากนั้นเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง VSS Unity ก็บินจากออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยพลังเครื่องยนต์ของตัวเอง แล้วทำความเร็วที่ระดับเหนือเสียง ทะยานขึ้นไปที่ระดับความสูงต่ำกว่าระดับวงโคจจรรอบโลก ก่อนที่จะบินกลับมาลงจอดบนรันเวย์ในทะเลทรายอย่างปลอดภัย
ถึงแม้ว่าโครงการพัฒนาเที่ยวบินเชิงพาณิชย์แบบ Sub-orbital spaceflight ของทาง Virgin Galactic จะมีการเดินหน้าไปอย่างช้าๆ แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นการก้าวย่างอย่างมั่นคง และถึงแม้ว่าจะมีความก้าวหน้าในการทดสอบมาถึงระดับนี้ แต่ทาง Virgin Galactic ก็ยังไม่ได้ให้ความชัดเจนว่าเมื่อไหร่เที่ยวบินความเร็วสูงของพวกเขาจะพร้อมรับผู้โดยสาร
แน่นอนว่าเที่ยวบินที่มีความพิเศษมากๆ แบบนี้เหมาะสำหรับระดับมหาเศรษฐีด้วยค่าใช้จ่ายที่แพง แต่ทาง Virgin Galactic ก็มีแผนที่จะให้บริการเพื่อประโยชน์ทางการทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน โดยอนุญาตให้นักวิจัยสามารถใช้เที่ยวบินที่ระดับความสูงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งเพื่อการทดลองเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศ
สำหรับคนที่สนใจเดินทางด้วยวิธีการสุดแสนพิเศษนี้ Virgin Galactic ตั้งราคาตั๋วโดยสารสำหรับ SpaceShipTwo เอาไว้ที่ราวๆ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.2 ล้านบาท) และถึงแม้ค่าตั๋วจะแพงในระดับนี้ แต่ทางบริษัทเคลมว่ามีเศรษฐีกระเป๋าหนักกว่า 100 รายที่รอจะขึ้นเครื่อง
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |