การยิงปืนขึ้นฟ้า เกิดขึ้นในหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ซึ่งก็มักจะทำเพื่อการเฉลิมฉลองอะไรสักอย่าง มันเป็นที่ยอมรับทางวัฒนธรรมในบางส่วนของคาบสมุทรบอลข่าน ตะวันออกกลาง ในอัฟกานิสถาน อินเดีย รวมถึงประเทศในแถบเอเชียด้วย แต่ในประเทศเปอร์โตริโก้ และในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา การยิงปืนขึ้นฟ้าถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นให้สามารถยิงปืนขึ้นฟ้าได้เพื่อการเฉลิมฉลองในวันส่งท้ายปีเก่า รวมถึงในบางเทศกาล
และก็ตามที่เป็นข่าวดังในบ้านเราช่วงเวลานี้ ที่มีการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเฉลิมฉลองในเรื่องต่างๆ จนทำให้เกิดเหตุกระสุนตกใส่หลังคาบ้านผู้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จนบ้านเรือนได้รับความเสียหายกันไป ก็ขอเข้าสู่ประเด็นคำถามสำคัญที่เราต้องการนำเสนอว่า กระสุนที่ตกลงมาจากฟากฟ้านั้นมีความรุนแรงมากพอที่จะทำให้คนที่โดนลูกหลงนั้นได้รับบาดเจ็บ หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยหรือไม่?
ลูกกระสุนที่ถูกยิงขึ้นไปบนฟ้าในแนวตั้งฉาก 90 องศากับผิวโลก เมื่อมันพุ่งขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด ก็จะย้อนกลับลงมาที่ผิวโลกด้วยความเร็วที่เรียกว่า ความเร็วปลาย (Terminal velocity) ซึ่งแน่นอนว่าเป็นความเร็วที่น้อยกว่าตอนที่ลูกกระสุนพุ่งออกจากปากกระบอกปืน แต่อย่างไรก็ดี ด้วยความเร็วของลูกกระสุนระดับนี้ ยังคงทำให้ผู้คนบาดเจ็บ หรือบาดเจ็บสาหัสได้เลย แต่สำหรับในกรณีที่ปากกระบอกปืนไม่ได้ตั้งฉากกับพื้นโลก ความเร็วและความรุนแรงของกระสุนยิ่งมากขึ้น เพราะกระสุนยังคงมีความเร็วในวิถีโค้ง คือถ้าองศาการยิงยิ่งตั้งฉากน้อยเท่าไหร่ ความรุนแรงยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และความเร็วของกระสุนในวิถีการยิงแบบนี้จะสูงกว่าการยิงขึ้นฟ้าในแนวดิ่ง
ย้อนเวลากลับไปในปี 1920 ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาวุธปืน คุณ Julian Hatcher ได้ทำการทดสอบยิงปืนขึ้นฟ้าด้วยกระสุนขนาด .30 คาลิเบอร์ แล้วลองทำการวัดความเร็วของลูกกระสุนที่ตกลงพื้น ผลปรากฏว่าความเร็วอยู่ที่ 90 เมตรต่อวินาที (204 ไมล์ต่อชั่วโมง) และจากข้อมูลเชิงนิติวิทยาศาสตร์ระบุว่า กระสุนที่มีความเร็วเพียง 61 - 100 เมตรต่อวินาที (200 - 330 ฟุตต่อวินาที) นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะเจาะทะลุผิวหนังมนุษย์ ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า กระสุนที่หล่นมาจากฟากฟ้าจะสามารถทำให้ผู้คนบาดเจ็บ ล้มตายได้หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเสริมจากงานวิจัยของ หน่วยงานควบคุมโรค ของสหรัฐอเมริกามาเสริมอีกว่า อาการบาดเจ็บของผู้คนที่โดนลูกหลงจากการยิงปืนขึ้นฟ้ากว่า 80% มักจะโดนกระสุนเข้าที่หัว, เท้า และไหล่ ในประเทศเปอร์โตริโก้ มีรายงานมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีคนกว่า 25 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากการยิงปืนขึ้นฟ้าในช่วงการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในแต่ละปี และหน่วยงานควบคุมโรค ของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ในช่วงระหว่างปี 1985 - 1992 ทีมแพทย์ที่ King/Drew Medical Center ในมืองลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย ได้ทำการรักษาอาการผู้ที่บาดเจ็บจากกระสุนปืนที่หล่นมาจากฟากฟ้ากว่า 118 ราย และในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิต 38 ราย
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |