วิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก มีวิธีการรักษาและรูปแบบการวินิจฉัยโรคแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งสามารถรักษาชีวิตจากโรคร้ายบางรูปแบบได้อย่างน่าทึ่ง และสำหรับคนที่เสียชีวิตไปเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว การแพทย์สมัยใหม่อาจมาช้าไปสำหรับเขา แต่มันก็ยังมีความน่าสนใจที่จะทำการวินิจฉัยโรคของคนที่เสียชีวิตไปเมื่อนานมาแล้ว
ร่างของชายคนหนึ่งถูกเก็บรักษาในสภาพของมัมมี่มาเป็นเวลาช้านานในสุสานของชาวอียิปต์ และล่าสุดได้มีการนำร่างมัมมี่ของเขามาเข้าเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ที่โรงพยาบาล Syracuse เมือง New York ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อหวังที่จะค้นหาสาเหตุการตายของเขา และชายในร่างมัมมี่ถูกตั้งชื่อเล่นให้ว่า Hen ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ ชายที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ก็มีสาเหตุการเสียชีวิตในรูปแบบเดียวกับมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ด้วยโรคมะเร็งนั้นเอง
CT scan เป็นการตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายด้วยลำแสงเอกซ์ โดยฉายลำแสงเอกซ์ผ่านอวัยวะที่ต้องการตรวจในแนวตัดขวาง และให้คอมพิวเตอร์สร้างภาพตัดขวางส่วนที่ต้องการตรวจอย่างละเอียด
ด็อกเตอร์ Mark Levinsohn อธิบายว่า "เขามีเนื้อร้ายตรงบริเวณ Fibula ซึ่งเป็นกระดูกท่อนหนึ่งที่อยู่บริเวณโคนขาช่วงล่าง และมันเป็นมะเร็งเนื้อร้ายชนิดที่พบได้ยาก ทำให้การสแกนมัมมี่ครั้งนี้กลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจในวงการแพทย์เลยทีเดียว"
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่า Hen ใช้ชีวิตอยู่อย่างไร รวมถึงสาเหตุการตายที่แท้จริง ซึ่งเขาอาจจะตายจากอาการของโรคมะเร็ง หรืออาจจะตายในระหว่างขั้นตอนผ่าตัดเนื้อร้ายก็เป็นได้ ซึ่งนักโบราณคดีได้มีการค้นพบหลักฐานการผ่าคลอดในยุคอียิปต์โบราณ แต่ก็ค่อนข้างเป็นที่แน่นอนว่าในยุคนั้น วิทยาการทางการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้าพอที่จะผ่าตัดเพื่อรักษาโรคมะเร็ง
แต่ก็ยังมีเรื่องที่น่าชื่นใจอยู่บ้างที่ การทำ CT scan ครั้งนี้ได้รับทุนบริจาคของโรงพยาบาล อย่างน้อยชายที่เสียชีวิิตไปเมื่อ 2,000 ปีที่แล้วก็ยังสบายใจได้ว่า เขาไม่ต้องออกเงินค่าทำ CT scan ในครั้งนี้นะ
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |